วันศุกร์ที่ 7 มกราคม พ.ศ. 2554


1. สะพานข้ามแม่น้ำแคว


สะพานข้ามแม่น้ำแคว เป็นสถานที่ทางประวัติศาสตร์ที่สำคัญยิ่งแห่งหนึ่ง เป็นสะพานที่สำคัญที่สุดของเส้นทางรถไฟสายมรณ สร้างขึ้นสมัยสงครามโลกครั้งที่ 2 โดยกองทัพญี่ปุ่นได้เกณฑ์เชลยศึกฝ่ายสัมพันธมิต ได้แก่ ทหารอังกฤษ อเมริกัน ออสเตรเลีย ฮอลันดา และนิวซีแลนด์ประมาณ 61,700 คน และกรรมกรชาวจีน ญวน ชวา มลายู ไทย พม่า อินเดียอีกจำนวนมาก มาก่อสร้างทางรถไฟสายยุทธศาสตร์ เพื่อเป็นเส้นทางผ่านไปสู่ประเทศพม่า ซึ่งเส้นทางช่วงหนึ่งจะต้องข้ามแม่น้ำแควใหญ่ จึงต้องมีการสร้างสะพานขึ้น การสร้างสะพานและทางรถไฟสายนี้ เต็มไปด้วยความยากลำบาก ความทารุณของสงครามและโรคภัย ตลอดจนการขาดแคลนอาหาร ทำให้เชลยศึกหลายหมื่นคนต้องเสียชีวิตลง ในช่วงสงครามโลกครั้งที่สองสะพานข้ามแม่น้ำแควเดิมได้รับความเสียหาย และรัฐบาลไทยได้ซ่อมแซมใหม่ ภายหลังสงครามสิ้นสุดลง เมื่อปี พ.ศ. 2489 จนสามารถใช้งานได้ดังเดิม ปัจจุบัน มีการยกย่องให้สะพานข้ามแม่น้ำแคว เป็นสัญลักษณ์แห่งสันติภาพ เดิมที สะพานข้ามแม่น้ำแคว ไม่เคยมีจริงในประวัติศาสตร์ แต่เนื่องจากทางอเมริกาได้ทำเป็นหนัง ดังนั้นทางจังหวัดจึงมีความเห็นให้ตั้งชื่อสะพานที่ท่ามะขามให้เป็นสะพานข้ามแม่น้ำแคว เพื่อให้เหมือนในหนัง และได้มีกลุ่มนักท่องเที่ยวมาตามหาจริงๆ สร้างรายได้ให้แก่ท้องถิ่น สะพานเดิมนั้นจะเป็นเหล็กโค้ง ส่วนที่เป็น4เหลี่ยมเป็นการซ่อมแซม สะพานเหล่านี้เดิมทีมีมากมายหลายแห่งในประเทศไทยและลาวพม่าแต่ส่วนใหญ่ทำจากไม้ ในไทยมีที่ทำจากเหล็กไม่ถึง 15 สะพาน
นอกจากนี้ที่สะพานข้ามแม่น้ำแควยังมีบริการรถราง Fairmong ทุกวัน โดยวันธรรมดา จะมีตั้งแต่เวลา 08.00-10.30 น., 11.20-14.00 น., 15.00-16.00 น., และ 18.00-18.30 น. วันเสาร์-อาทิตย์ ตั้งแต่เวลา 08.00-09.30 น., 11.20-14.00 น., และ 18.00-18.30 น. ค่าโดยสารคนละ 20 บาท


2. สุสานทหารสัมพันธมิตร

สุสานทหารสัมพันธมิตร เนื่องจากการเกณฑ์ทหารพันธมิตรมาสร้างทางรถไฟสายยุทธศาสตร์ผ่านกาญจนบุรีไปประเทศพม่าของกอง ทัพญี่ปุ่น ในสงครามโลกครั้งที่ 2 เป็นเหตุให้เชลยศึกสัมพันธมิตรเสียชีวิตลงที่กาญจนบุรีเป็นจำนวนมากครับ ชาวไทยจึงได้อุทิศที่ดินให้เป็นสุสานฝังศพผู้เสียชีวิตดังกล่าวซึ่งมีอยู่ 2 แห่งคือ สุสานกาญจนบุรี (ดอนรัก) สุสานกาญจนบุรี (ดอนรัก) อยู่ที่บริเวณหลังสถานีรถไฟกาญจนบุรี ห่างจากตัว เมืองออกไปทางเหนือประมาณ 1 กิโลเมตรครับ เป็นสุสานที่มีเนื้อที่กว้างขวางสวยงามและเงียบสงบ บรรจุศพทหารเชลยศึกถึง 6,928 หลุม สุสานเขาปูน (ช่องไก่) สุสานเขาปูน (ช่องไก่) บริเวณนี้เคยเป็นที่ตั้งค่ายเชลยศึกขนาดใหญ่ อยู่ห่างจากตัวเมือง ออกไปทางแม่น้ำแควน้อยประมาณ 2 กิโลเมตร โดยทางเรือ นักท่องเที่ยวที่มีรถส่วนตัวต้องนำรถข้ามแพขนาน ยนต์ที่ท่าหน้าเมือง แล้วแล่นรถไปตามถนนลูกรังผ่าน หมู่บ้านชาวประมงริมน้ำไป 3 กิโลเมตรสุสานนี้อยู่ห่าง จากริมฝั่งน้ำประมาณ 20 เมตร ขนาดเล็กกว่าสุสานกาญจนบุรี บรรจุศพเชลยศึกรวม1,750 หลุม ซึ่งส่วนใหญ่เป็นทหารอังกฤษ





3. น้ำตกเอราวัณ


น้ำตกใหญ่และสวยงามแห่งหนึ่ง อยู่บนฝั่งแม่น้ำแควใหญ่ ในเขตอุทยานแห่งชาติเอราวัณ หรือที่ชาวบ้านเรียก กันว่า "อุทยานแห่งชาติเขาสลอบ" สายธารน้ำตกเอราวัณมีความยาว 2,000 เมตร จากชั้นบนสุดถึงชั้นล่างสุด ไหล ลดหลั่นกันลงมาท่ามกลางผืนป่าอันเขียวขจี แบ่งเป็นชั้นใหญ่ ๆ ได้ทั้งหมด 7 ชั้น โดยจากลานจอดรถ มีทางเดินเท้า เข้าสู่บริเวณน้ำตก เป็นเส้นทางเดินท่ามกลางผืนป่าที่ร่มรื่นและเป็นธรรมชาติ ทางอุทยานฯ ได้จัดเส้นทางไว้อย่างด ีเยี่ยมและไม่อนุญาตให้นำอาหารเข้าไปในบริเวณน้ำตก เพื่อเป็นการรักษาความสะอาดและความเป็นธรรมชาติเอาไว้ ประมาณ 500 เมตร ก็จะถึงน้ำตกชั้นแรก ด้วยโครงสร้างของผาหินปูน น้ำตกเอราวัณ จึงเป็นน้ำตกที่มีลีลาการริน ไหลอ่อนช้อยงดงาม นักท่องเที่ยวควรเดินอยู่บนทางเดินที่ทางอุทยานฯ จัดไว้ให้เท่านั้น เมื่อเดินสูงขึ้นไปจนถึง น้ำตกชั้นที่ 7 หรือชั้นบนสุด ซึ่งธารน้ำจะแยกตกลงมาเป็น 2 สาย สีขาวของสายน้ำที่ตกลงมาจากผาสูงเมื่อมองไกล ๆ จะมีลักษณะคล้ายงาของช้างและหัวของช้างที่ยื่นเดินออกมาจากภูผา จึงได้ชื่อว่า "น้ำตกเอราวัณ"
การเดินทาง
อยู่ห่างจากตัวเมือง 65 กิโลเมตร ใช้เส้นทางสายกาญจนบุรี-ศรีสวัสดิ์ (ทางหลวงหมายเลข 3199) เมื่อถึง กิโลเมตรที่ 56 แยกซ้ายข้ามสะพานเข้าตลาดเขื่อนศรีนครินทร์ ตรงไปอีกประมาณ 3 กิโลเมตร จะถึงลานจอดรถ แล้วเดินต่อไปอีก 500 เมตร จะถึงตัวน้ำตก
สำหรับการเดินทางโดยรถประจำทาง มีรถออกจากสถานีขนส่ง ซึ่งอยู่ใกล้กับสำนักงานการท่องเที่ยวแห่ง ประเทศไทย จังหวัดกาญจนบุรี มายังตลาดเขื่อนศรีนครินทร์ทุกวัน และจากตลาดฯ มีรถสองแถวและมอเตอร์ไซด์ รับจ้างเข้าสู่น้ำตก
4. น้ำตกผาตาด
น้ำตกผาตาด เป็นน้ำตกขนาดใหญ่ในเขต อุทยานแห่งชาติเขื่อนศรีนครินทร์ เกิดจากลำห้วยเล็กๆบริเวณ เทือกเขากะลา น้ำตก ผาตาดเป็นน้ำตกที่มีความสวยงามมีชั้นน้ำตกลดหลั่นกันไปถึง 3 ชั้น แต่ละชั้นมี ความกว้างความสูงที่ตระการตา และมีน้ำมาก ในช่วงปลายฤดูฝน การเดินทางไปน้ำตก สามารถเดินทาง โดยใช้ทางหลวงหมายเลข 323 ช่วงกิโลเมตรที่ 105–106 โดยเลี้ยว เข้าทางเดียวกับพุน้ำร้อนหินดาด และอยู่เลยจาก พุน้ำร้อนหินดาดเข้าไปประมาณ 8 กิโลเมตร
 
5. สะพานมอญ 
 สะพานมอญ อยู่ในตัวอำเภอสังขละบุรี เรียกอีกชื่อหนึ่งว่า สะพานอุตตมา-นุสรณ์ เป็นสะพานไม้ที่ยาวที่สุดในประเทศไทยมีความยาวถึง ๘๕๐ เมตร สร้างข้ามลำน้ำซองกาเลียสำหรับให้ประชาชนฝั่งตัวอำเภอสังขละบุรีและฝั่งหมู่บ้านชาวมอญเดินข้ามสัญจรไปมา บริเวณสะพานแห่งนี้เป็นจุดชมวิวทะเลสาบเขื่อนวชิราลงกรณที่สวยงามสามารถมองเห็นลำห้วยสายต่างๆคือ ซองกาเลีย บีคลี่ และรันตีที่ไหลมารวมกันเป็นสามประสบ


6. เขื่อนวชิราลงกรณ์ (เขื่อนเขาแหลม)
เขื่อนวชิราลงกรณ์ เป็นเขื่อนหินถมแห่งแรกของประเทศไทย ที่ดาดผิวหน้าด้วยคอนกรีตเสริมเหล็ก ตั้งอยู่บนแม่น้ำแควน้อย ในท้องที่ตำบลท่าขนุน อำเภอทองผาภูมิ จังหวัดกาญจนบุรี 
ทะเลสาบเหนือเขื่อนเป็นทะเลสาบขนาดใหญ่กลางขุนเขาสลับซับซ้อนแห่งเทือกเขาตะนาวศรี เกิดจากการสร้างเขื่อนแม่น้ำแควน้อยรอบ ๆ เขื่อนวชิราลงกรณ์ มีสภาพเป็นป่าดิบรกทึบอุดมสมบูรณ์ และเป็นที่อาศัยของสัตว์ป่าหลากชนิด ส่วนใต้ผืนน้ำก็เต็มไปด้วยทรัพยากรสัตว์น้ำอันทรงคุณค่า เช่น ปลากระสูบ ปลาแรด ปลาชะโด และปลายี่สก เป็นต้น นักท่องเที่ยวนิยมเดินทางมาสู่ทะเลสาบเพื่อมาชมทัศนียภาพของทะเลสาบอันกว้างใหญ่ รวมทั้งพักค้างแรมในแพพักหรือรีสอร์ท ริมอ่างเก็บน้ำ 
ผืนน้ำกว้างไกลมีความหมายแห่งชีวิตและเรื่องราว เล่าขานตำนานเมืองสังขละบุรีที่เลือนหาย อยู่ใต้ผิวน้ำชั่วนิจนิรันดร์ราวเมืองบาดาล ใครจะเชื่อว่า คราใดเมื่อน้ำลดเมืองบาดาลทั้งเมืองก็ปรากฏให้ทุกคนเห็นหรือใครจะดิ่งดำลงไปก็จะเห็นลวดลายแสนวิจิตรของวิหรแห่งเมืองใต้บาดาลเมืองบาดาล เขื่อนเขาแหลม จ. กาญจนบุรี





7. เหมืองปิล็อก
เหมืองปิล็อก ตั้งอยู่ในตำบลปิล็อกซึ่งอยู่ห่างจากอำเภอทองผาภูมิไปทางทิศตะวันตกประมาณ 70 กิโลเมตร ตามทางหลวงหมายเลข 3272 มีการทำเหมืองแร่ดีบุก วุลแฟรมกันมากบนเทือกเขาตะนาวศรี ซึ่งเป็นพรมแดนระหว่างไทยกับพม่า ระหว่างทางสามารถแวะชม “ปิล็อกฮิลล์” สถานที่ปลูกไม้ผลและไม้ประดับเมืองหนาว ซึ่งอยู่ห่างจากทองผาภูมิประมาณ 32 กิโลเมตร นอกจากนี้ยังมีน้ำตกสวยงามหลายแห่งซึ่งการจะเข้าถึงน้ำตกจะต้องใช้การเดินเท้า
เช่น น้ำตกจอกกะดิน และน้ำตกเจ็ดมิตร การเดินทางควรใช้ความระมัดระวังเนื่องจากเส้นทางส่วนใหญ่มีความสูงชันและคดเคี้ยว



4 ความคิดเห็น:

  1. มาร่วมกันแสดงความคิดเห็นกันมากๆ นะค๊า ~!!

    ตอบลบ
  2. นี่อยู่ในจังหวัดกาญจนบุรีหมดเลยหรอคะ
    สวยจัง..แปลกตาไม่เคยเหนมาก่อน
    น่าสนใจมากค่ะ

    ตอบลบ
  3. ปายน่าหนาวคงจาเย็นน่าดู

    ตอบลบ